ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นเมื่อข้อมูลส่วนบุคคลของเราถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด เรื่องสำคัญที่เราต้องระวังในยุคปัจจุบัน
ถูกขโมยตัวตน (Identity Theft) เพื่อใช้ก่ออาชญกรรม และโจรกรรมข้อมูลทางการเงิน เมื่อข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อ นามสกุล เลขบัตรประชาชน หรือข้อมูลทางการเงิน ถูกนำไปใช้โดยบุคคลอื่น อาจทำให้เกิดการทำธุรกรรมทางการเงินที่ไม่ได้รับอนุญาต การสมัครบริการต่างๆ ในนามของเรา หรือแม้แต่การก่ออาชญากรรม
ประมวลข้อมูล เพื่อใช้กำหนด Profile (Profiling) เพื่อเจาะโฆษณาหาประโยชน์ทางการเมือง / การตลาด
ผู้ที่ได้ข้อมูลส่วนบุคคลไปอาจนำไปใช้ในการหลอกลวงให้เราเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติม หรือหลอกล่อให้เราทำการโอนเงิน
สแปม (SPAM) ข้อมูลส่วนบุคคลบางอย่าง เช่น ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ หรือพิกัดตำแหน่ง อาจถูกนำไปใช้ในการติดตามและคุกคามบุคคล
ติดตาม สะกดรอย สอดแนม (Tracking, Stalking)
เป็นพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดความรู้สึกไม่ปลอดภัยและคุกคามต่อบุคคลอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อกระทำซ้ำๆ และมีเจตนาที่จะทำให้เกิดความหวาดกลัวหรือรำคาญใจ ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน ความสัมพันธ์ และสุขภาพจิตของผู้ที่ตกเป็นเหยื่อได้อย่างรุนแรง
ข้อมูลถูกขายให้บุคคลที่ 3 (Misuse) เพื่อใช้ประโยชน์ทางการตลาด เช่น กรณีของ Facebook และ Cambridge Analytica
ข้อมูลส่วนบุคคลอาจถูกนำไปใช้ในการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค และนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ไม่ตรงกับความต้องการของเรา หรืออาจถูกนำไปใช้ในการส่งสแปมหรือข้อความโฆษณาที่รบกวน

การถูกขโมยข้อมูลส่วนบุคคลเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของเราอย่างมาก สร้างความเสียหายทางการเงิน ความเสียหายต่อชื่อเสียง ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย การตระหนักถึงความเสี่ยงและการปฏิบัติตามคำแนะนำในการป้องกันตนเอง จะช่วยลดความเสี่ยงในการถูกนำข้อมูลไปใช้ในทางที่ผิดได้